เหรียญมีสองด้านเสมอ..หนึ่งในคำคมอมตะ ที่ใช้กันทั่วโลก ..สำหรับเตือนสติให้รู้จัก"ดูตาไว้ตา ฟังหูไว้หู" อย่าเพิ่งเชื่ออะไรง่ายๆ...แต่แค่เหรียญยังไม่พอครับ..ต้องมีนี่อีกอัน.."ลูกบาศก์" ครับ..ขอเรียกว่า "รูบิค" ละกัน เรียกง่ายกว่า
รูบิคมี 6 ด้าน...หากเอารูบิควางไว้บนโต๊ะไม้ซักตัว ไม่ว่าเราจะยืนมองหรือนั่งมองจาก"จุดใดจุดหนึ่ง จุดเดียว" เราจะเห็นได้สูงสุดเพียง 3 ด้าน(ยืนมองจากด้านบนและมองทางมุมรูบิค)..หรือ 2 ด้าน(ยืนมองจากด้านบนและมองตรงด้านหน้าตรงๆ)..หรือเห็นแค่ 1 ด้าน..ย่อตัวหรือ...นั่งเก้าอี้มองด้านหน้าตรงๆในระดับสายตาพอดี
หากเปรียบการมองรูบิคเป็น "วิจารณญาณ" มองเห็นด้านเดียวถือว่าแย่ที่สุด สองด้านแค่ดีขึ้นนิด สามด้านดีขึ้นอีกหน่อย..แต่ยังเรียกว่าแย่ เพราะยังขาดอีก 3 ด้าน..และใน 6 ด้านจะมีด้านนึง ที่คนมองไม่เห็นเลย คือ "ด้านใต้ของรูบิค" เพราะมันติดกับโต๊ะ..เดินรอบโต๊ะก็เห็นแค่ 5 ด้าน !!!
ถ้ารูบิคลูกนี้วาดภาพไว้ทุกด้าน..คนนึงมองเห็นเห็นแต่ภาพวาดสวยๆงามๆหรือพระพุทธรูป...อีกคนมองเห็นแต่ภาพน่าเกลียดหรือปีศาจ..อีกคนมองเห็นทั้งสองอย่าง ..เพราะมองคนละมุม..มองไม่ทั่วถึง มองไม่ครบ 6 ด้าน
คราวนี้รูบิคอีกลูก อาจจะวาดภาพสวยงามเลิศหรูหรือพระพุทธรูป ไว้ 5 ด้านเลย ..แบบปล่อยให้เดินรอบโต๊ะก็ต้องเชื่อว่ารูบิคนี้ดี...แต่วาดภาพลามกไว้ด้านใต้ ..ให้ฉลาดแค่ไหน ก็คงคิดไม่ถึง
ทุกเรื่องราวทั้งในชีวิตจริง ข่าว นสพ. โซเชียล..ส่วนใหญ่จะเป็นเหมือนรูบิค...มีคนมองเห็นเพียง 1 ด้าน(เช่นแต่งบทความมา 20 ข้อ) อ่านแล้วถ้าเชื่อหมดทุกข้อ ใช้วิจารณญาณไม่เป็นเลย..บางคนเห็น 2-3 ด้าน(เชื่อเกิน 10 ข้อขึ้นไป)...ทางเดียวที่จะเห็นครบ 6 ด้านคือ..อย่าอ่านเฉยๆ..หยิบรูบิคขึ้นมาเลย..พลิกดูให้ครบทุกด้าน ว่ามีแอบแฝงหรือซ่อนไรไว้หรือเปล่า..นี่คือ"การเปรียบเทียบ" แต่ในความเป็นจริง..ไม่มีลูกรูบิคให้เราจับ เพราะมันมีแต่เนื้อหาหรือภาพหรือคลิป..แต่เราต้องพยายามคิดลึก นึกให้ไกลว่า เนื้อหานั้นๆมันเป็นประโยชน์แท้จริงหรือเป็นโทษ...หรือวางยาอะไรมาบ้าง จุดไหนน่าสงสัยบ้าง มันแกล้งทำมาแดกดันคนอื่นหรือเปล่า ฯลฯ..
การคิดลึก เปรียบเหมือนการตั้งโจทย์ว่า "ให้คนอื่นเอารูบิคลูกนึงมาวางบนโต๊ะ และให้เราหาวิธีใดก็ได้ ที่จะเห็นรูบิคทั้ง 6 ด้าน โดยที่ต้องอยู่กับที่ ดูครั้งเดียว ห้ามขยับตัวเด็ดขาด" ทำได้ไหม???...ทำได้ครับ...ก็ขอเปลี่ยนเป็นโต๊ะกระจกใส..แล้วในห้องติดกระจกเงาไว้ทุกด้าน รวมทั้งใต้โต๊ะด้วย ..แล้วเชิญเอารูบิคมาวางได้เลย..
ซึ่งก็คือ..หากเรารู้เท่าทัน ไม่ว่าเนื้อหาที่เราเห็น ปกปิดอะไรไว้ให้ผิดสังเกต เราก็เห็นมันได้..อาจจะยังสรุปไม่เป๊ะซะทีเดียว แต่การสันนิษฐานน่าจะถูกต้องใกล้เคียง...ไอ้ด้านที่ 6 นี่มันตัวร้าย เพราะเป็นด้านที่ใครต่อใครมักจะมองไม่เห็น..ขนาดหลายๆคนมุงดูรอบโต๊ะ เห็น 5 ด้านแล้วยังชะล่าใจ วางใจ..แต่พอมีใครหยิบรูบิคขึ้นมา เห็นด้านที่ 6 แล้วหงายหลังตึงกันหมด...สิ่งที่คนชอบแชร์มักไม่ได้คิดคือ..."คนที่ปล่อยแชร์ ทั้งทำคลิป ทั้งพิมพ์เรื่องยาวเฟื้อยเลื้อยเป็นงู" แล้วก็ตะโกนปาวๆ "ให้แชร์วนไปเยอะๆ"..มันทำเพื่ออะไร???(ด้านที่ 6)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น