2 วันที่ผ่านมา ผมกลับมานึกถึงเว็บบอร์ด "หมากฮอสคลับ" ("makhosclub") ที่ผมลงทุนเช่าปีละ 500 บาท ทำเพื่อเสนอเรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวกับหมากฮอส โดยไม่มีรายได้ ทำแบบขาดทุนอย่างเดียว..ทำอยู่ 5 ปี (2550-2554) แล้ว Host เกิดล่มไปด้วยสาเหตุ harddisk พัง ไม่มีข้อมูลสำรอง(เขาบอกมาแบบนั้น) ผมก็เลยเลิก ปิดเว็บบอร์ดถาวร กู้คืนไม่ไหว..เป็นเวลาเดียวกับที่ตนเองก็ประกาศอำลาวงการแล้ว ..เมื่อฟ้าดินเป็นใจให้เว็บล่มซะอีก ก็เลิกทำ เป็นอันจบภาคแรก
ครั้นมาต่อภาค 2 ที่เว็บบล็อกแห่งนี้(blogger) จุดมุ่งหมายไม่ได้ต้องการทำต่อจาก "หมากฮอสคลับ" แต่ต้องการไว้สื่อสารเรื่องราวต่างๆ เพียงเล็กๆน้อย ทั้งเรื่องหมากฮอส เรื่องวิ่ง และเรื่องจับฉ่ายอีกนิดหน่อย จึงไม่ค่อยจะอัพเดท..อีกทั้งลักษณะของเว็บบล็อกจะต่างกับ FB ..การที่ผมไม่เลือกทำใน FB เพราะว่า เดี๋ยวจะต้องมาตอบโน่นนี่ทุกวันจนตอบไม่ไหว เลิกก็คือเลิก ขอคุยคนเดียวดีกว่า
เมื่อขาดผมไป ผมเชื่อว่า สมาชิกทุกๆคนที่เคยเป็นขาประจำเยี่ยมชม "หมากฮอสคลับ" จะรู้สึกว่า "ขาดผู้บรรยายที่รู้จริง ทำงานรวดเร็ว และผิดพลาดน้อย" ยกตัวอย่าง 3 คุณสมบัติพอครับ..ที่เหลือให้ไปคิดกันเองว่าจะได้อีกกี่ข้อ
ที่สำคัญคือ ผมทำด้วยใจล้วนๆ..ซึ่งบทพิสูจน์ก็เห็นได้ว่า ผมลาขาดจากวงการแล้วจริง ไม่ได้ลงแข่งขันอีกเลยหลังจากปี 2554 ที่แข่งเป็นครั้งสุดท้ายแล้วประกาศอำลา และก็ไม่ได้ไปดูงานแข่งชิงแชมป์ประเทศไทยรายการไหนๆอีกเลย
แต่ถึงผมจะแขวนกระดานและแขวนการเป็น"ผู้สื่อข่าวหมากฮอสเฉพาะกิจ" แล้วก็ตาม ผมก็เห็นว่า กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี มีตัวตายตัวแทน คนที่ผมวางใจว่า มีความสามารถในการนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจ และสนิทสนมรู้จักประวัตินักหมากฮอสแต่ละคนดี รวมทั้งเป็นนักกีฬาที่ตั้งใจเล่น อะไรต่อมิไรสารพัดที่วางใจได้ว่า เขาอาจทำได้ดีกว่าผม ยกเว้นเรื่องฝีมืออย่างเดียว ที่ยังเป็นรอง อิอิ..นั่นก็คือ อ.เก้า
ปัจจุบันผมไม่รู้ว่า วงการมีไรบ้าง ยังไงแค่ไหน เนื่องจากว่า FB หลายๆแห่งเป็นกลุ่มปิด ซึ่งถ้าที่ไหนเป็นกลุ่มปิด ผมจะไม่สมัครเข้าร่วมกลุ่มไหนทั้งสิ้น ผมจะเป็นแค่ขาจร ผ่านไปผ่านมา "เปิดก็เข้า ปิดก็ช่าง"
จบภาค 1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น