วันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ทำไมจึงผีเข้าผีออก

แข่งขันกันมาหลายสิบปี บางคนอยู่อันดับสูงๆตลอด ติด 4 เซียนหรือ 8 เซียน บางคนก็เด้งขึ้นเด้งลงหาที่เหมาะๆเกาะไม่ติด บางคนก็ไต่บันไดขึ้นมาทีละขั้นดีขึ้นเรื่อยๆ บางคนเหมือนโดนถีบตกกะได ยิ่งเล่นยิ่งวูบ เพราะอะไร?

ตอบแบบคร่าวๆ
-เกาะอันดับสูงๆได้ตลอด แปลว่าฝีมืออยู่ตัว การฟิตซ้อมเตรียมตัว-การวางแผน ยังดี ความคิดยังเฉียบคม ความจำยังใช้ได้อยู่ รูปหากินมีเยอะ ฯลฯ
-เกาะอันดับสูงๆไม่ค่อยติด เด้งขึ้นเด้งลง ฟิตหรือไม่ฟิตก็ทำได้เท่านี้ แปลว่า ฝีมือยังไม่อยู่ตัว ความคิดหรือความจำยังมีบกพร่องด้านใดด้านหนึ่ง รวมทั้งรูปหมาก เชิงเล่น
-ยิ่งเล่นยิ่งรุ่ง แสดงว่าเข้าใจเหลี่ยมต่างๆดีขึ้น ฟิตซ้อมได้ที่ ความคิดดีขึ้น ความจำดี
-ยิ่งเล่นยิ่งร่วง แสดงว่า อ่อนซ้อมหรือเดินแต่แต้มล้าสมัย หมดรูปหากิน เชิงเล่นไม่ฉลาด ความจำชักเลอะเลือน

คราวนี้ก็ดูแบบละเอียดว่าเกิดจากอะไรบ้าง ทำไมถึงผีเข้าผีออก
-อ่อนซ้อม กับ ซ้อมจัด ข้อนี้คงไม่ต้องบรรยายล่ะครับ อ่อนซ้อมก็มีแต่ผลเสีย ซ้อมเยอะย่อมดีกว่า
-รูปเยอะ กับ รูปน้อย
รู้รูปเยอะก็ได้เปรียบ แต่ต้องรู้แบบชาญฉลาด รู้รูปที่สามารถนำออกมาเล่นได้และมีพิษสงพอสมควร ถ้าไปรู้แต่รูปที่เปิดติดยาก หรือรูปที่เปิดติดแต่ไม่มีตรงไหนเป็นต่อ ก็กลายเป็นความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด เจอคนที่รู้รูปน้อยกว่า แต่เลือกรูปมีพิษสงกว่า ก็สู้แบบหลังไม่ได้
-เชิงเล่น อันนี้ก็ต้องผสมกับเรื่องรูป จะเปิดรูปบางรูปต้องมีชั้นเชิงถึงจะเปิดได้ บางคนเดินก่อน+เดินหลัง เปิดจังหวะไปตามสเต็ป ตั้งการ์ดตั้งรับดิบดี ไม่ได้ฉีกรูป แต่กลับโดนอีกฝ่ายหลอกไปเข้ารูปที่เตรียมมาหน้าตาเฉย แปลว่า เขาเตรียมการบ้านมาดี ถ้าใครเดินตามสเต็ปเขาก็ดึงไปเข้าทางเขาได้ (ถ้าเดินมั่วไป อาจไม่เข้าทาง)
ตรงกันข้าม บางคนการ์ดหลวมไปนิด ขยับผิดจังหวะตรงนี้นิด ตรงนั้นหน่อย (โดยที่ยังเสมออยู่) อีกฝ่ายก็อาจเปิดจังหวะตะลุมบอนฉีกรูป แข่งความคิดกันได้ ตรงนี้ก็สำคัญว่า เมื่อต้องคิดแข่งกันแล้ว ใครจะทำได้ดีกว่า

-เรื่องความคิด บางคนช่วงกลางกระดานกับปลายกระดานเลือกตัวไม่ค่อยดีนัก (หรือถึงขนาดเลือกแย่สุดๆ) ทั้งๆที่หมากตัวเองอยู่ฝ่ายชนะแล้วด้วย ยังไปเลือกตัวเสมอเอย ตัวแพ้เอย ก็ต้องโทษตัวเองแล้วล่ะครับ ต้องฝึกความคิดให้เฉียบคมกว่าที่เป็นอยู่
โอกาสทอง กับ โอกาสแท้ง นี่ก็สำคัญมาก จังหวะไหนที่มีโอกาสทองแบบป๊อกเดียวจอดแล้วดันมองไม่เห็น หรือแบบต้องบีบกันจนหน้าเขียวแต่บีบไม่อยู่ ก็อดได้แต้ม
กลับกัน ถ้าเดินเซ่อขึ้นมาง่ายๆ หรือหนีไม่เหนียว ไม่ควรแพ้ก็แพ้ ก็กลายเป็นแท้ง

-มีดทู่กับคางเปราะ (คล้ายๆกับข้อตะกี้) ฝีมือจะดีต้องมีลูกคมกับลูกเหนียว(มีลูกหลอกด้วยยิ่งดี) หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป ก็กลายเป็นมีดทู่ หรือ คางเปราะ แต่คางมันสำคัญกว่า ในการแข่งขันแต่ละกระดาน มันก็มี 3 หน้า คือ ชนะ-เสมอ-แพ้ ถ้าชนะได้ก่อนก็ยิ้มออก คอนโทรลเกมได้ แต่ถ้าแพ้ก่อนก็เดินไปร้องไห้ไป ดังนั้น นักมวยที่ฉลาดจะไม่ให้โดนคางก่อนครับ เดินแล้วไม่ชนะได้แค่เสมอก็ยังพอทน แต่ถ้าคางเปราะไปโดนอีกฝ่ายอัดก่อน ตีเสมอได้ก็ตาลีตาเหลือก ครั้นจะพลิกชนะด้วย โอกาสเป็นไปได้แค่ 5-10% เท่านั้น

-การประกบคู่+ดวง บางคนดวงเฮงจริงๆ ประกบคู่ไม่ค่อยเจอขาโหด ทำให้เก็บแต้มเยอะๆได้ แม้ว่าไทเบรคจะไม่ดี แต่ถ้าแต้มเยอะก็ดีกว่าวันยังค่ำ แต้มดีกว่าเพียงครึ่งแต้ม ถึงไทเบรคจะห่วยสุดๆ ยังไงๆอันดับก็ต้องดีกว่า

-การฮั้ว+การคำนวนคะแนน บางคนมีฝีมือและมีโอกาส แต่ผิดพลาดเพราะการวางแผนเรื่องคะแนน (เล่นผ่านไปแล้วกี่รอบ ควรได้กี่แต้ม แต้มน้อยไปต้องรีบไล่หรือเปล่า แต้มมากพอเล่นแบบประคองตัวดีหรือเปล่า ฯลฯ) บางรอบแทนที่จะเล่นจริง ถ้าเล่นอาจเก็บมาได้ 1 แต้ม ดันไปฮั้วเอาแค่ 0.5 แต้ม ถึงตอนจบก็มานั่งเสียดายว่า รู้งี้วัดดวงเล่นจริงดีกว่า ขาดไปแค่ครึ่งแต้ม เลยไม่ติดอันดับสูงๆ

-เละรวมมิตร ปีนี้จะเห็นว่าเซียนใหญ่เก่าๆแย่งกันรูดมหาราช ทั้งเรื่องของทิ้งวงการไปนาน, อ่อนซ้อม, จำเลอะเลือน, เดินแต่หมากล้าสมัย หมากรั่วๆ, ไม่เคยเห็นหมากใหม่ๆที่โผล่มาในยุคหลัง, ประเมินไม่ถูกว่าคลื่นลูกหลังแต่ละมือฝีมือประมาณไหน ฯลฯ
แค่ข้อเดียวก็แย่แล้ว บางคนมีครบเครื่อง เลยเละเป็นโจ๊ก อิอิ

-ตายตอนจบ กฎข้อสำคัญที่สุดของระบบสวิสก็คือ รอบสุดท้ายแพ้ไม่ได้เด็ดขาด(ยกเว้นแต้มนำห่างเหลือเฟือจริงๆ) หลายๆคนโดนเสียบในรอบสุดท้าย ทั้งหมดโอกาสแก้ตัวและอันดับมักจะรูดลงไปราวๆ 10 อันดับ

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ4 ธันวาคม 2561 เวลา 23:56

    เจ้าของบล็อก ตายแบ้วหรอ? ฆ่าตัวตายหรอ? ใจเสาะจัง 555 บรื๋อ.....

    ตอบลบ