เป็นการวิ่งทดสอบความทนทานกล้ามเนื้อขา หัวเข่า และหัวใจ...ทฤษฎีวิ่งมีหลายทฤษฎี แต่ผมเลือก "วิ่งตามใจตัวเอง"..แบบนี้ไม่เชิงว่าเป็นการทดสอบความอึด ถ้าทดสอบความอึดต้องวิ่งวันเดียวยาวๆหลายสิบกิโลเมตร หรือหลายๆวัน...แต่ที่ผมซ้อมนี่เป็นการซ้อมวิ่งในระดับมินิ เพียงแต่วิ่งทุกวัน ดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น...33 วัน ตามตัวเลขที่เห็นนี่ครับ
9-3-11-10-10-6-8
8-11-8-13-12-8-8
8-8-10-10-8-8-8
8-8-5-10-8-8-8
10-10-8-8-10
คืนวันที่ 33 ช่วงเช้าใกล้จะตื่นแล้ว โดนตะคริวกินน่องไปจึ้กนึง ..ชิวๆครับ แบบว่าตะคริวต้องมากินน่องเวลานอนปีนึงประมาณ 5-6 ครั้ง (เฉียดๆอีกนับสิบครั้ง) แต่วันรุ่งขึ้นพอดีต้องไปทำธุระ เดินทางหลายชั่วโมงเกิน พอเสร็จธุระก็ใกล้ค่ำแล้ว เลยไม่มีเวลาแวะไปวิ่ง ไม่งั้นก็จะไปวิ่งต่อ แค่ตะคริวกินขาเดียวเรื่องเล็ก กินสองขาพร้อมกันค่อยพักก็ได้ อิอิ ...เอาล่ะ วิ่งไม่ทันก็ไม่ต้องวิ่ง พักก็พัก ยอมจบสถิติที่เลขเบิ้ลสวยๆแค่นี้ก็พอใจละ
ช่วงฤดูร้อนผมก็จะซ้อมวิ่งประมาณ 10K ไม่ค่อยเกินกว่านี้ แพ้ร้อนแพ้แดด เจอแดดมากๆแล้วฝ่อเลย ขนาดพยายามหลบแดด ตัวยังดำปี๋เลยครับ วิ่งถี่เกิน...พอถึงช่วงฤดูฝนถึงจะซ้อม 15K 21K แล้วก็ยังต้องซ้อม 26K 30K ไปยัน 42K เพื่อปรับตัวก่อนไปลงสนาม ... ยังไงก็ต้องซ้อมยาว ไม่ซ้อมไม่ได้ ถึงจะเคยผ่านระยะทางต่างๆมาหมดแล้วก็จริง แต่ถ้าไม่ซ้อมนาน พวกไกลโคเจน พลังแฝงต่างๆในร่างกายมันถดถอยสูญหายไปหมด ต้องคอยกระตุ้นปลุกผีมันขึ้นมา
ที่ซ้อมถี่ๆทุกวันนี้ก็เพื่อความมั่นใจว่า วิ่งบ่อยแค่ไหนก็ไม่บาดเจ็บ หรือบาดเจ็บก็ประเดี๋ยวประด๋าวแล้วก็หายไปเอง ไม่เรื้อรัง (แต่ถึงขนาดนี้แล้วพอแข่งขันก็บาดเจ็บบ่อยครั้ง เพราะตลอดทางพื้นเอียงซ้ายทีขวาที ขึ้นๆลงๆ ไม่เหมือนทางที่ซ้อมประจำ..ยังแก้ปัญหานี้ไม่ตก วิ่งลอยฟ้าถนนบรมราชชนนี บาดเจ็บมา 3 หนละ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น