วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2558

หมากกระเรียนเหิร.. หมากหมอมรกต

ต้นกำเนิดของหมากกระเรียนเหิร ต้องนับย้อนไปช่วงประมาณปี 2526 ผมนั่งซ้อมหมากฮอสแบบ"ใครแพ้ลุก" ที่สวนหย่อมข้างศาลา กทม. กับคนหลายวัย ..มีคนวัย 50 ปีเศษ ที่ชอบใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาว ใครๆเลยเรียกว่า อ.แขนยาว..น้าหรือลุงคนนี้ เดินแต่แต้มหลอกทิ้งร่ม ไม่ได้เดินล็อคเหมือนชาวบ้าน แต่ก็ฝึกมาไม่กี่กระบวนท่า มีสไตล์หนีบข้าง เป๋ขวา โจรตาร่ม รวมถึงมาตรฐานยกมาหลอกให้ทิ้งร่ม..พอผมทิ้งร่มไป ผมก็แพ้ ก็งงว่า ไม่เคยเจอใครเดินแต้มนี้มาก่อน เข้าท่าดี ผมก็เอามาแกะ แต่แกะอยู่หลายปี ลองไปใช้กับใครต่อใคร ชนะมานับไม่ถ้วนก็จริง แต่พอซ้อมให้อีกฝ่ายตีไปทีละจุด ผมก็ยังหาเสมอไม่ได้ นึกว่าหมากแพ้ เอาไว้เล่นหลอกคนได้..ผ่านไปหลายปี จนกระทั่งปี 2540+ ก็มาถอดใหม่ซ้ำๆ (ติดใจแต้มนี้เป็นพิเศษ) สุดท้ายเจอจังหวะตัดเจ็ดตัวแล้วกางปีกออก รู้สึกว่าไม่แพ้(จึงตั้งชื่อว่ากระเรียนเหิร)...ช่วงนั้นพอดีว่า หมากฮอส กฟภ. แข่งไป 4 ครั้งแรก (2536-2539)แล้วเจอฟองสบู่แตก เลยงดจัดแข่งขัน ผมก็นั่งถอดแต้มนี้กับหมากอื่นอีกหลายหมาก..ตอนถอดเสร็จใหม่ๆผมก็ให้เฮียเก๊ามาช่วยเช็ค แล้วก็สั่งกำชับว่า อย่าเอาไปให้ใครดูนะ..วันนี้คืนดี เฮียเก๊าเอาไปถอดกะคนอื่นที่วงเวียนใหญ่ เล่นเอาผมเคือง..เฮียเก๊าก็แก้ตัวอ้ำอึ้งไปว่า จ่าล็อตตารี่เอามาเดิน..เหอะๆ จ่าแกระดับไหน เคยเดินแต้มนี้ซะเมื่อไหร่..ผมก็บอกอย่าไปโชว์ที่ไหนอีกนะ..พอปี 2544 ไฟฟ้า กลับมาจัดครั้งที่ 5...ปีนั้นผมเดินเฮงซวยสุดๆ แข่งกับใครต่อใครก็มีเซ่อมีเอ๋อ รวมแล้วแพ้ไปถึง 7 กระดาน(คางเปราะสุดๆ)..แต่อาศัยแต้มกระเรียนเหิรกับแต้มอื่นที่ถอดช่วงไฟฟ้างดจัดแข่งขัน ช่วยชีวิตมาหลายด่าน แม้ตอนชิงกับเซียนหง่าวก็นำไปก่อนด้วยแต้มนี้..สุดท้ายเสมอกับเซียนหง่าว (ได้แชมป์ครองร่วม)
ผ่านไปหลายปี เจอ อ.แขนยาวเจ้าเก่า..ผมก็พูดไปว่า แต้มมาตรฐานยกหลอกให้ร่มของ อ.นี่จ๊าบมาก ..แต่คำตอบที่ได้มาก็อึ้งครับ..แกตอบมาตรงๆว่า "แต้มของไอ้ซ้งมัน" (เซียนซ้ง) ..กลายเป็นว่าแท้จริงแล้วแต้มหลอกนี่เซียนซ้งเป็นคนเอามาเล่นก่อน ..มิน่า มือระดับ อ.แขนยาว เดินแต้มนี้ได้ก็แปลกๆอยู่ เพิ่งจะรู้ความจริงหลังผ่านมายี่สิบกว่าปี..แต่ตอนเซียนซ้งเล่นยังแค่หลอกๆ ยังไม่เป็นกระเรียนเหิรนะครับ กระเรียนเหิรนี่สมบูรณ์จริงๆก็ช่วงปี 2540

อีกแต้มก็มาตรฐาน VS สามเรียง 8 ตัว แล้วมีวิ่งมาเจาะข้าง..ซึ่งภายหลังถูกเรียกว่าแต้ม RST (เรืองชัย สุกิจ ทัศน์ชัย) สามเซียนช่วยกันถอด..แต้มนี้มาจากมือโนเนมที่คนให้ฉายาว่า"หมอมรกต" เล่นเดิมพันกับเซียนใช้ในวัดมหาธาตุ แล้วเซียนใช้เดินไม่ชนะหรือว่าชนะแล้วกลับไปถอดดูหรือไงไม่ทราบ กลายเป็นว่ายังหาชนะไม่เจอ จึงไปถาม อ.เรืองชัย แล้วซือแป๋เรืองชัยก็ไปถอดกับ อ.สุกิจ เซียนไฝ สุดท้ายสรุปว่าเสมอ..ชื่อแต้มก็ถูกเรียกใหม่เป็น RST แต่คนเล่นฮอสในวัดมหาธาตุและที่อื่นๆเค้าเรียกแต้มหมอมรกตจนติดปากแล้ว เพียงแต่หมอมรกตแค่ซี้ซั้วเดิน งูๆปลาๆไปแค่นั้น

กระเรียนเหิรนี่ชนะเซียนมาเยอะมาก มีเซียนยุทธที่เดินเสมอมาแบบง่ายๆ เพราะมีคนเอาแต้มไปโชว์ให้เซียนยุทธเห็นก่อน..ช่วงนั้นดีกว่าหลบเซียนดำได้ด้วย ประกบคู่ไม่เจอกัน เจอก็ไม่อยากเล่น..มีเจอเซียนใช้บ่อย แต่ผมก็ไม่เล่น กะไว้จนตรอกจริงๆ แต้มอื่นมี เล่นไปก่อน...ตอนเอามาเล่นกับสองคนนี้หรือเซียนรุ่นหลัง ก็คือแกล้งเล่นไปงั้นๆ ฆ่ากระดานทิ้งแบบไม่เสียเปรียบ รู้แล้วว่าหมากหมดอายุแล้ว ใครต่อใครเคยเห็นมาแล้ว 

 แต้มนี้ผมถอดเก็บไว้ 4 ปี เก็บจนอกแทบระเบิด ไม่ยอมเล่นเดิมพันหรือซ้อมกับใคร (ตรงจุดที่ตัดแล้วกางปีก) ส่วนคนที่เคยเจอกระเรียน(ตอนยังไม่มีเหิร) ผมก็ปล่อยให้รู้แค่นั้น คิดไปว่าหมากฝ่ายเราเป็นหมากแพ้ ไม่ให้รู้ว่ามีถอดตัวใหม่มาแล้ว กะเจออีกเมื่อไหร่จะเสียบให้หงายท้องทีละราย อิอิ..ตอนหลังดันเจอตี๋เสาชิงช้าท้าเดิมพันกระดานละ 200 แล้วผมดันไม่พกเงินติดตัวมาเลย ต้องยืมเงินชาวบ้านเป็นทุน 200 แล้วเล่นกระดานละ 100 แทน เผื่อเสียสองกระดานก็เลิก..เลยต้องงัดแต้มกระเรียนมาเล่นกับตี๋ เฉพาะกระเรียนท่าเดียวก็ทุบตี๋ได้ถึง 4 กระดาน ตี๋เดินไม่ซ้ำ แต่แก้ไม่ตก พูดแต่ว่าเหลือเชื่อๆ (ตี๋ไม่มีโง่ทิ้งร่มหรอกครับ เลือกไปทางยากๆแต่ก็หนีล็อคไม่ออก) 

แต้มในตระกูลกางปีก ที่ผมถอดมาเล่น มีหงส์เหิร กระเรียน กับสามเรียงอีกรูปนึง ซึ่งรูปสุดท้ายนี้ไปตรงกับที่ตี๋พระประแดงนำมาเล่น ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน แต่ดูจากการแข่งขัน ผมเล่นก่อนตี๋พระประแดง จริงแล้วผมน่าจะเป็นคนเล่นก่อน แต่ทำใจแบบเป็นกลางๆ ก็ต้องยอมรับว่า หมากบางหมากอาจจะมีคนถอดหาเช่นกัน..ถ้าเป็นหมากที่ผมเล่นตั้งแต่ปี 252X อะไรหลายๆแต้ม...แล้วคนอื่นเพิ่งจะมาเดินในปี 254X-255X ก็อย่าไปบอกว่าเป็นหมากของคนนั้นคนนี้เลยครับ พูดไปก็รู้ไม่จริง ไม่รู้ที่มา

ยุคแรก 2526+ ผมถอดหมากเพื่อแก้ทางพี่เฉลิมพล(รุ่นพี่ที่ราม ลูกศิษย์เซียนซ้ง) ซ้อมกันแต่ละวัน ผมแพ้ยับเยิน แค่หวังจะชนะบ้างนิดๆหน่อยๆ ผมก็ไปถอดแต้มแปลกๆมาลองของกะเค้า..พอเจอแต้มแปลกๆของผมเข้าไปชักจะหลายรูป เช่น หงส์เหิร แต้มแพ้ในรูป 62 (หรือแต้มลูกเต๋า) พี่เหลิมก็เริ่มระแวงว่าผมมี อ. ที่ไหนสอน ถึงขนาดพูดว่า จังหวะนี้ทั้งประเทศมีคนรู้ไม่ถึงสิบคน..ก็จริงของเค้าแหละครับ แต่บางรูปอาจจะรู้น้อยกว่า 5 คนอีก อิอิ..ตอนนั้นผมยังไม่มีอาจารย์ ถัดไปไม่นานถึงได้เจอ อ.เรืองชัย แต่ผมก็ยังหาแต้มแปลกๆของผมไปประปราย แต่มักจะใช้ไม่ได้ ยิ่งสมัยนั้นการถอดหมากยังอ่อนมาก ถอดให้ตายก็ผิด รั่วหมด กว่าจะถอดหมากเป็นจริงๆ ก็ช่วงที่ได้แชมป์แล้ว แต่ก็ยังผิดเยอะ ยอมรับว่าถอดลวก ตามใจตัวเอง บางทีชอบหมากไหนเกิน แต่มันไม่ดี ก็ฝืนถอดอยู่นาน แล้วค่อยยอมรับว่าใช้ไม่ได้..แต่แต้มพวกกางปีกนี่มันแปลกว่า ปกติตำราไม่มีใครเขียน เล่นมาทุกสารทิศก็ไม่มีใครเดิน ทำไมมองข้ามกัน..พอผมมาถอด เล่นได้ตั้งหลายรูป ดีด้วย ช่วงที่ใช้แรกๆ เซียนไหนเจอก็เสร็จแทบทุกราย เอาตัวรอดมาปีแล้วปีเล่าก็เพราะรูปพวกนี้..เวลาชนะก็ง่ายด้วย ถ้าเปรียบกับมวยที่ฝ่ายนึงใส่นวมกับไม่ใส่นวม ก็คงเห็นว่าใครได้เปรียบ แต่นี่เปรียบแล้วคล้ายกับ ฝ่ายนึงใส่นวม อีกฝ่ายถือไม้หน้าสาม เดินผิดไรมาปุ๊บ ตีสลบทันที ไม่มีแบบต้องปล้ำกันให้เหนื่อยไป 5 ยก 12 ยก ..ป๊อกเดียวจอดกลางกระดาน แทบไม่ต้องเบียดปลายเลย
====================
ต่อครับ สามเรียงกางปีก ก็มีเรื่องตลกๆ..คือถ้าสังเกตให้ดีและนึกถึงความเป็นจริงว่า แต้มนี้กับกระเรียนเหิร ตำแหน่งมันต่างกันที่ขาชิดกับขาถ่าง..ก็คือหลังจากผมถอดกระเรียนเหิรสำเร็จแล้วก็มาถอดแต้มนี้ด้วย เปรียบเทียบกันดู ว่ามันจะแพ้หรือเสมอ..แล้วมันก็เสมออีก เพียงแต่มันไม่แรงเท่ากระเรียน แต่ก็พอมีไรหนุกๆ..เดิมทีผมก็ไม่รู้จะตั้งชื่อสองหมากนี้ว่าอะไรดี รูปทรงมันคล้ายกันมาก ต่างกันที่ขาข้างเดียว..ทีแรกว่าจะตั้งชื่อว่า ช้างพังกับช้างพลาย หรือช้างตัวเมียกับช้างตัวผู้ คนก็ต้องงงว่าแล้วรูปไหนตัวเมีย ตัวผู้..ขาชิดหรือขาถ่าง..มันดันไม่มีหางนี่สิ ดูช้างต้องดูที่หาง ถ้าดูหางชี้ เป็นตัวเมียแน่นอน อิอิ ..เลยไม่เอาช้างๆ ผมก็เอาหมากนึงเรียกกระเรียน ตั้งตนเป็นเจ้าสำลัก(นัก)กระเรียนด้วย..อีกหมากก็เรียกไปว่าสามเรียงกางปีก.. แล้วตลกอะไรตรงไหน? ก็ตอนแข่งไฟฟ้า ตี๋พระประแดงเอารูปนี้มาเดินกันผม ผมก็ไม่ได้ซ้อมมานาน ยิ่งเดินกลับหัวก็มีงงไรนิดหน่อย เห็นตี๋(ใหญ่)เดินมารู้ล่ะว่า เป็นท่านี้เหมือนกัน ผมก็ยังไม่อยากเสมอก็เดินไปทางตัวที่ต้องเล่นยาวหน่อย..แต่ดันงงเอง งงเพราะกลับกระดานแล้วก็สีเบี้ยในกระดานสีคล้ายๆกัน (สีเขียวเจอสีฟ้า) ผมเผลอโดนกินสามต่อเลยมั้ง ไม่ใช่ไม่รู้ แต่เซ่อ..แพ้แล้วหัวเสีย..ผมรีบไปหยิบเบี้ยสีอื่นมาใส่แทนเลย..ตอนหลังตีเสมอตี๋ใหญ่มาได้..แล้วผมไปเจอเซียนดำรอบชิง (ตอนผลัดกันต่อเสมอแพ้) ผมก็รู้ว่าเล่นไป เซียนดำถึงตีไม่ตายก็คงเห็นเสมอ คงไม่ได้ผล แต่ตอนนั้นนึกไม่ออกว่าจะเล่นไรจริงๆ ก็เล่นไป แล้วเป็นไปตามคาด เซียนดำก็ทำเสมอ...แต่ตอนเซียนหลอเอาไปเดินกับเซียนดำที่ลำพูน เซียนหลอก็รู้มาจากผมอีกที แต่เซียนดำกับเซียนหลอนี่เจอกันทีไรต้องใส่กันให้แหลกไปข้าง เซียนดำก็เล่นจุดยากไม่ตัดเสมอง่ายๆ แล้วเซียนดำก็พลาดเอง ไปแพ้เซียนหลอ ดวงใครดวงมัน..  ต้นตำรับเล่นไม่ได้ผล คนอื่นเล่นแล้วได้ผล เหอๆ           

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น